การพัฒนาเครื่องปลูกอ้อยแบบใหม่สำหรับวัสดุปลูกชนิดชิ้นตาอ้อยDevelopment of a Novel Sugar Cane Planter for Bud Chip as Planting Material

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องปลูกอ้อยแบบใหม่ที่ใช้ชิ้นตาอ้อยเป็นวัสดุปลูกและวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์วิศวกรรมเครื่องปลูกอ้อยฯ ที่พัฒนาขึ้น เครื่องต้นแบบที่พัฒนาใช้งานร่วมกับรถแทรกเตอร์ขนาด 30 แรงม้า และเป็นเครื่องปลูกอ้อยแบบร่องเดี่ยว ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องประกอบด้วย อุปกรณ์เปิดร่อง ท่อนำวัสดุปลูก โครงสร้างเครื่องชุดกะพ้อลำเลียง ถังบรรจุวัสดุปลูก ถังบรรจุปุ๋ย อุปกรณ์โรยปุ๋ย ชุดจานกลบดินและล้ออัดดิน โดยก่อนการใช้งานเครื่องปลูกอ้อยฯ จำเป็นจะต้องมีการเตรียมชิ้นตาอ้อยก่อนด้วยการใช้เครื่องตัดชิ้นตาอ้อย จากนั้นนำชิ้นตาอ้อยบรรจุใส่เครื่องปลูกอ้อยฯ เพื่อทำการปลูก จากการทดสอบเครื่องปลูกอ้อยฯ ด้วยการเลือกใช้ความเร็วเคลื่อนที่ของเครื่องปลูกอ้อยฯ แตกต่างกัน 4 ระดับ พบว่าเครื่องปลูกอ้อยฯ เคลื่อนที่และทำงานได้อย่างเหมาะสมที่ความเร็วเคลื่อนที่ที่ระดับเกียร์ต่ำ 3 (3L) ของรถแทรกเตอร์โดยที่ระดับเกียร์ดังกล่าวทำให้เครื่องปลูกอ้อยฯ มีค่าความสามารถเชิงไร่ทางทฤษฎีเท่ากับ 1.89 ไร่ต่อชั่วโมง ค่าความสามารถเชิงไร่จริงเท่ากับ 1.25 ไร่ต่อชั่วโมง และประสิทธิภาพการทำงานเท่ากับ 66% สำหรับผลการวิเคราะห์ค่าทางเศรษฐศาสตร์วิศวกรรมชี้ให้เห็นว่าต้นทุนในการใช้งานเครื่องปลูกอ้อยฯ มีค่าเท่ากับ 192.9 บาทต่อชั่วโมง จุดคุ้มทุนมีค่าเท่ากับ 92.04 ไร่ต่อปี และระยะเวลาคืนทุนมีค่าเท่ากับ 0.82 ปี

The objects of the present research are the development of a novel sugar cane planter for bud chip as planting material and analysis of engineering economics of the developed machine. Technically, the developed machine is operated with a 30-horsepower tractor and it is designed a 1-furrow planter. The main components of the machine consist of a furrow opener, a planting material-sending tube, the mainframe, a bucket conveyor, a planting material hopper, a fertilizer hopper, a fertilizer distributor, covering discs and a press wheel. Before operating the machine, practically, it is necessary to prepare a sugar cane bud chip by using a bud chip cutter developed by our research team. After that, the cut bud chip is loaded into a planting material hopper of the machine to be planted in the field by the machine. According to testing results by operating the machine with four different forward speeds, it was found that the machine was able to move and operate suitably at an operating speed of a 3th-low gear of a tractor. At this operating speed, the developed machine had a theoretical field capacity of 1.89 rai per hour, an effective field capacity of 1.25 rai per hour and a field efficiency of 66%. Regarding engineering economics analysis of the developed machine, it indicated that the cost of using the machine was equal to 192.9 baht per hour. The break-even point and payback period were equal to 92.04 rai per year and 0.82 years, respectively.